วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558
วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558
เทคนิคเพาะเห็ดตับเต่าด้วยวิธีง่าย ๆ
เทคนิคเพาะเห็ดตับเต่าด้วยวิธีง่าย ๆ
การเพาะเห็ดตับเต่าด้วยวิธีง่ายๆ
เห็ดตับเต่า
เห็ดตับเต่า เห็ดผึ้ง หรือเห็ดห้า เป็นเชื้อรากลุ่มเอ็คโตมัยโคไรซ่า เป็นเห็ดที่อาศัยอยู่กับรากพืช คือเห็ดจำพวกนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีพืชเป็นที่อาศัยครับ เส้นใยของเห็ดตับเต่าจะเจริญดีมากจากรากอ่อน จนถึงปลายราก แต่เราจะใส่เชื้อที่โคนรากของต้นไม้อาศัย ในช่วงแรกเชื้อเห็ดตับเต่าจะอาศัยอยู่ที่โคนราก แล้วค่อยๆ ลามไปจนทั่วปลายราก อย่างที่เคยอธิบายไว้ในบทความก่อนๆครับ เห็ดตับเต่าจะออกดอกเห็ด ให้เราได้รับประทานเฉพาะในช่วงหน้าฝน (ยกเว้นเพาะนอกฤดู) และเห็ดประเภทนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีพืชอาศัย พืชอาศัยของเห็ดตับเต่าก็มี ลำไย ลิ้นจี่ หว้า มะกอกน้ำ แคบ้าน กระถิน ส้มโอ โสน มะม่วง มะกอกบ้าน มะกอกน้ำ เป็นต้น ส่วนวิธีการเพาะเห็ดตับเต่า หลักๆก็มีด้วยกันเพียง 4 วิธีดังนี้ครับ
เทคนิคเพาะเห็ดตับเต่าด้วยวิธีง่าย ๆ
1. ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์ คือรอให้สปอร์เห็ดพัดมากับ ลม น้ำ หรือสัตว์ที่กินเห็ดมาถ่ายใส่ไว้ให้
2. นำดอกเห็ดแก่ (ดอกเห็ดแก่จะมีสปอร์อยู่มาก) ไปปั่นละลายกับน้ำ ราดไว้ที่โคนต้นไม้อาศัย
3. นำหัวเชื้อขยาย (ก้อนเชื้อที่ทำไว้แล้ว) มาผสมกับน้ำราดไว้ที่โคนต้นไม้อาศัย..ผมสั่งซื้อจาก ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงรายครับ เขาส่งถึงบ้าน ก้อนละ 40 บาท (ไม่รวมค่าส่ง)
4. ขูดเอาผิวดินที่เคยมีเห็ดขึ้น ดินที่เห็ดเก่าปล่อยสปอร์ทิ้งไว้ เอาดินนี้มาใส่ตรงโคนต้นไม้อาศัยของเห็ดตับเต่า
หลักของการเพาะเห็ดตับเต่าก็มีเพียงเท่านี้ครับ ให้เพื่อนๆ เลือกทำตามวิธีใดวิธีหนึ่งข้างต้น แล้วแต่ความสะดวก เพียงเท่านี้ก็จะมีเห็ดตับเต่าไว้รับประทานไปชั่วลูกชั่วหลานเลยทีเดียว
ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย
ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000 โทรศัพท์ 053 – 170100
เห็ดตับเต่า
เห็ดตับเต่า เห็ดผึ้ง หรือเห็ดห้า เป็นเชื้อรากลุ่มเอ็คโตมัยโคไรซ่า เป็นเห็ดที่อาศัยอยู่กับรากพืช คือเห็ดจำพวกนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีพืชเป็นที่อาศัยครับ เส้นใยของเห็ดตับเต่าจะเจริญดีมากจากรากอ่อน จนถึงปลายราก แต่เราจะใส่เชื้อที่โคนรากของต้นไม้อาศัย ในช่วงแรกเชื้อเห็ดตับเต่าจะอาศัยอยู่ที่โคนราก แล้วค่อยๆ ลามไปจนทั่วปลายราก อย่างที่เคยอธิบายไว้ในบทความก่อนๆครับ เห็ดตับเต่าจะออกดอกเห็ด ให้เราได้รับประทานเฉพาะในช่วงหน้าฝน (ยกเว้นเพาะนอกฤดู) และเห็ดประเภทนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีพืชอาศัย พืชอาศัยของเห็ดตับเต่าก็มี ลำไย ลิ้นจี่ หว้า มะกอกน้ำ แคบ้าน กระถิน ส้มโอ โสน มะม่วง มะกอกบ้าน มะกอกน้ำ เป็นต้น ส่วนวิธีการเพาะเห็ดตับเต่า หลักๆก็มีด้วยกันเพียง 4 วิธีดังนี้ครับ
![]() |
เทคนิคเพาะเห็ดตับเต่า (ภาพจาก: www.chiangraifocus.com) |
1. ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์ คือรอให้สปอร์เห็ดพัดมากับ ลม น้ำ หรือสัตว์ที่กินเห็ดมาถ่ายใส่ไว้ให้
2. นำดอกเห็ดแก่ (ดอกเห็ดแก่จะมีสปอร์อยู่มาก) ไปปั่นละลายกับน้ำ ราดไว้ที่โคนต้นไม้อาศัย
3. นำหัวเชื้อขยาย (ก้อนเชื้อที่ทำไว้แล้ว) มาผสมกับน้ำราดไว้ที่โคนต้นไม้อาศัย..ผมสั่งซื้อจาก ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงรายครับ เขาส่งถึงบ้าน ก้อนละ 40 บาท (ไม่รวมค่าส่ง)
4. ขูดเอาผิวดินที่เคยมีเห็ดขึ้น ดินที่เห็ดเก่าปล่อยสปอร์ทิ้งไว้ เอาดินนี้มาใส่ตรงโคนต้นไม้อาศัยของเห็ดตับเต่า
หลักของการเพาะเห็ดตับเต่าก็มีเพียงเท่านี้ครับ ให้เพื่อนๆ เลือกทำตามวิธีใดวิธีหนึ่งข้างต้น แล้วแต่ความสะดวก เพียงเท่านี้ก็จะมีเห็ดตับเต่าไว้รับประทานไปชั่วลูกชั่วหลานเลยทีเดียว
ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย
ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000 โทรศัพท์ 053 – 170100
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558
โกยเงินปีละล้าน หนุ่มสถาปนิก ผันตัวเป็นเกษตรกรปลูกไผ่กิมซุ่ง
หนุ่มสถาปนิก เคยใช้ชีวิตในผ้าเหลืองนาน 5 ปี ผันตัวเองเป็นเกษตรกรปลูกไผ่กิมซุ่ง ขายทั้งกิ่ง และหน่อ สร้างรายได้ปีละล้าน เผยเพิ่งปลูกปีแรก พร้อมเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ ให้ประชาชนเข้ามาศึกษาฟรี...

นายเดโช บอกว่า ในอดีตเคยอยู่บริษัทญี่ปุ่น สร้างคอนโด สร้างบ้านขาย จนเก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง ประมาณ 2-3 ล้าน คิดอยากใช้ชีวิตในชนบท จึงชวนภรรยาลาออกจากงาน แล้วกลับมาอยู่ที่บ้านภรรยาที่สกลนคร ต่อมาเปิดกิจการร้านจำหน่ายเครื่องมือทางการเกษตรทุกชนิด รวมทั้งปุ๋ย มีลูกค้ามาติดต่อซื้อจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเงินเชื่อมากกว่า และเก็บเงินไม่ได้จึงปิดกิจการ แต่ไม่เคยคิดฟ้องร้องเพราะราคาพืชผลไม่ดี สภาพอากาศก็แห้งแล้ง ชาวนาชาวสวนก็พลอยย่ำแย่ไปด้วย จึงรู้สึกเห็นใจ
จากนั้นได้ออกบวชอยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ปลีกวิเวกตามป่า ถ้ำและภูเขา รู้สึกเข้าถึงธรรมะ ส่วนภรรยาไปทำงานที่กรุงเทพ เช่นเดิม โดยตนได้ใช้ชีวิตอยู่ในผ้าเหลืองเป็นเวลา 5 ปี จนได้รับแจ้งว่าที่บ้านถูกโจรกรรมทรัพย์สินไปหมด ไม่เหลือแม้กระทั่งชุดเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ ถ้วยชาม พระเครื่องกว่า 500 องค์ จึงสึกออกมาและไม่ได้ติดใจอะไร มองว่าของที่เขาขโมยไปอาจจะเป็นของเขา คิดได้อย่างนี้ก็สบายใจขึ้น และชวนภรรยากลับมาปฏิบัติธรรมอยู่บ้าน จึงคิดได้ว่า จะต้องทำอะไรสักอย่างที่สวนกระแสและไม่ตามใคร จึงเป็นที่มาของการปลูกไผ่กิมซุ่ง ในพื้นที่ 11 ไร่ เพราะปลูกง่าย โตเร็ว ปลูกแล้วขายได้ทั้งกิ่งและหน่อ โดยกิ่งขายกิ่งละ 50 บาท หน่อกิโลกรัมละ 35-40 บาท ซึ่งเป็นรายได้ที่ดีมาก ตนปลูกมา 1 ปี ขายกิ่งและหน่อ ปีละ 1 ล้าน เฉลี่ยกอละ 2 พันบาท/ต่อปี
สำหรับวิธีปลูก เตรียมดินห่างระหว่างต้น 3x3 เมตร เตรียมหลุม 50x50x50 จากนั้นใช้ปุ๋ยคอกรองพื้น นำไผ่ลงปลูกโดยเฉียงกับพื้นดิน 60 องศา และหมั่นดูแลเรื่องหญ้าที่จะขึ้นปกคลุม หมั่นใส่ปุ๋ยคอก ต่อระบบน้ำอย่าให้ขาด ใช้เวลา 7-9 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ เชื่อว่าหากกิ่งและหน่อออกอย่างสม่ำเสมอ สามารถทำรายได้ให้ถึง 2 พันบาทต่อหลุม/ต่อปี ซึ่งอยากให้เกษตรกรหันมาปลูกไผ่กิมซุ่ง เพราะเลี้ยงง่ายไม่ขี้โรค
“ท่านจะมีรายได้เพิ่มทันตา และพร้อมที่จะเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ให้เกษตรกรเข้ามาศึกษา ในอนาคต สถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของผู้สูงอายุ ควบคู่ไปกับศูนย์เรียนรู้ อีกด้วย” นายเดโช กล่าว
ขณะที่นายอำเภอพรรณานิคม ได้กล่าวชื่นชมนายเดโช ที่กล้าทำการเกษตรโดยไม่ตามใคร ไม่ใช้สารเคมี พร้อมเชิญชวนเกษตรกรหันมาปลูกไผ่กิมซุ่ง เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป.
วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558
วิธีขยายพันธุ์มะนาวด้วยใบ ขยายได้จำนวนมาก ทำเองได้ต้นทุนต่ำ

มะนาว เป็นพืชเศรษฐกิจอีกอย่างที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันมีความต้องการสูงอีกทั้งราคาก็ดี ใครสนใจอยากจะปลูกมะนาวขายหรือลองปลูกไว้กินเอง บางกอกทูเดย์เรามีวิธีการ การขยายพันธุ์มะนาวด้วยใบ ตามแบบฉบับของ ครูติ่ง มาให้ลองได้ศึกษาและลองทำดู ซึ่งสามารถขยายพันธุ์มะนาวได้ทีละมากๆด้วย
วิธีการขยายพันธุ์มะนาวด้วยใบ โดย ครูติ่ง มีขั้นตอนการทำดังนี้
1. นำกาบมะพร้าวตัดเป็นท่อนยาวราว 2.5-3 ซม. นำไปแช่น้ำไว้จนชุ่ม เอาค้อนทุบจนกาบมะพร้าวแตกนุ่มขึ้น เพื่อง่ายต่อการห่อให้กลม
2. เมื่อได้กาบมะพร้าวที่นุ่มแล้ว นำมาห่อม้วนเป็นทรงกลม รัดหนังยางหัวท้าย แล้วนำตะปูทิ่มลงไปบริเวณด้านบนของกาบมะพร้าวให้เป็นรู เพื่อลดการเสียดสีเวลานำใบเสียบลงไป
3. ตัดใบให้มีก้านด้านบนใบเล็กน้อย ส่วนด้านล่างก้านใบให้ยาวเกือบถึงชั้นที่อยู่ด้านล่างถัดไป หรือยาวประมาณ 1-1.5 ซม.
4. ตัดใบออกครึ่งหนึ่ง เพื่อลดการคายน้ำ
5. เปิดกรีดเปลือกหุ้มก้านด้านของใบ หรือเปิดแผลตามความยาวของก้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการออกราก 1-3 หน้า หากไม่ทำเช่นนี้รากจะออกเฉพาะที่ปลายลอยตัดเท่านั้น ถือว่าน้อย ทำให้ต้นมะนาวที่นำไปปลูกไม่แข็งแรง ถ้ากรีดพื้นที่ตรงนี้จะเพิ่มพื้นที่ในการออกรากมากขึ้นนั่นเอง
6. นำกิ่งที่เปิดหน้าแล้ว ไปจุ่มในน้ำยาเร่งราก แล้วเอาไปผึ่งลมให้แห้ง ถ้าไม่แห้งเมื่อนำไปเสียบในกาบมะพร้าวอาจเน่าได้
7. เมื่อแห้งแล้ว เอาไปเสียบในกาบมะพร้าวที่เตรียมไว้จนมิดด้าม พอเสียบได้ 4 ก้อน หรือ 4 กิ่งมามัดรวมกัน เพื่อให้ตั้งได้
8. นำก้อนกาบมะพร้าวที่เสียบกิ่งแล้ว ไปจุ่มน้ำให้ชุ่มแล้วใส่ไว้ในถุงร้อน มัดหนังยางในลักษณะให้ถุงร้อนพองโป่งออก ให้ใบไม่กระทบถุง
หรือถ้าหากมี ห้องพ่นหมอกจะดีมาก ให้เอาพันธุ์มะนาวที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้าในห้องพ่นหมอกจะช่วยให้รากแตกเร็ว และที่สำคัญเพิ่มอัตราการรอดได้มาก
9. เมื่อได้ถุงที่มีก้อนกาบมะพร้าวเสียบใบมะนาวอยู่ด้านในเรียบร้อยแล้ว ให้เอาไปตั้งไว้ใต้ต้นไม้ที่มีร่มเงา ให้โดนแสงบ้างเล็กน้อย ประมาณ 1 เดือน มะนาวจะเริ่มออกรากหรือเริ่มติดตายอด ส่วนถ้าเป็นมะกรูดจะใช้เวลานานประมาณ 3-4 เดือน จึงจะเริ่มออกรากและติดตายอด ซึ่งถ้าจะให้สมบูรณ์ควรรอทั้งรากและตาออกมาทั้งคู่ จึงเริ่มนำไปลงถุงชำต่อไปได้
คลิปการขยายพันธุ์มะนาวด้วยใบ
การขยายพุนธุ์มะนาวด้วยใบ มีข้อดีคือแม้ว่าเรามีพันธุ์มะนาวที่ดีเพียงแค่ต้นเดียวก็สามารถขยายพันธุ์มะนาวได้เป็นจำนวนมากๆ เป็นร้อยเป็นพันต้นก็ได้ หากใครสนใจปลูกมะนาวก็ลองทำตามวิธีของครูติ่งได้ เพราะครูติ่งได้บอกไว้แล้วว่าโอกาสรอดของการปลูกแบบวิธีนี้ก็สูงด้วย
ขอบคุณ คมชัดลึก,บันทึกลุยทุ่งกับ ธกส.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)